เชอเกียม ตรุงปะ : ค้นพบหัวใจตัวเองในความโดดเดี่ยว

เชอเกียม ตรุงปะ เขียน
ทีมงานวัชรสิทธา แปล

ภาพประกอบโดย Nakkusu

ที่มา The Collected Works of Chogyam Trungpa : Volume Ten 


การพบตัวเองครั้งแรกกับความโดดเดี่ยว คือการพบตัวตนที่แท้จริงของเราโดยไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม เป็นตัวตนที่เปลือยเปล่าที่ได้ประกาศตัว มีความเด่นชัด กระจ่าง และเด็ดขาด ประสบการณ์ของความโดดเดี่ยวเป็นมุมมองจากอัตตา อัตตาที่ไม่มีอะไรให้พึ่งพิง ไม่มีใครมาเป็นหลักให้ยึดเหนี่ยว

ความโดดเดี่ยวประเภทนี้เป็นความรู้สึกที่ตนเองไม่อยู่ที่ไหนเลย หลงทาง มีความเศร้าอันใหญ่หลวงที่ไม่มีสิ่งใดรอบตัวจะสามารถเกาะเกี่ยวได้ แต่นี่คืออัตตาของเธอเองที่ทำหน้าที่เป็นเสียงแห่งความเศร้าและความเหงา ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถโทษใครได้ หรือแม้แต่โกรธเคืองใครได้

จุดเริ่มต้นแบบนี้มีประโยชน์และคุณค่ามาก นี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้มิลาเรปะเข้าฝึกเดี่ยวในถ้ำ และในกรณีของพวกเราก็เช่นกัน การเข้ารีทรีตคือรูปแบบหนึ่งของการแสดงออกถึงความโดดเดี่ยว ความเหงา ความรกร้างว่างเปล่า พวกเราอาจประสบกับความกลัวในระหว่างการเข้ารีทรีต แต่ความกลัวนั้นเป็นเพียงการแสดงออกของความเหงาอย่างแท้จริง พวกเรากำลังพยายามสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง จึงสร้างความกลัวขึ้นมา เราอาจย้อนกลับไปสู่บันทึกความทรงจำในอดีต หรือสมุดภาพเก่าๆ ของเรา แต่สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่ออีกครั้ง พวกเรากลับมาสู่จุดเดิมอยู่ตลอดเวลา การทำอาหาร การนอนหลับ หรือการเดินเล่น อาจกลายเป็นแหล่งความบันเทิง มีสิ่งให้ทำน้อยมาก เรารู้สึกขอบคุณที่มีสิ่งให้ทำบ้าง แต่ไม่นานก็กลับมาที่จุดเดิมอีก

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของการอยู่ในรีทรีตไม่ได้เลวร้ายโดยสิ้นเชิง มันมีบางอย่างจางๆ ละเอียดอ่อน เหมือนเธอกำลังตกหลุมรักอะไรบางอย่าง เธอเริ่มเห็นคุณค่าในความว่างเปล่า ความโดดเดี่ยว มีความโรแมนติกอันละเมียดเกิดขึ้น เพราะไม่มีสิ่งใดมาสร้างความบันเทิงแก่เธอได้ ทุกสิ่งจึงย้อนกลับมาที่ตัวเธอเอง บทเพลงของมิลาเรปะในช่วงต้นของการอยู่ภาวนาในถ้ำจึงเป็นดั่งบทเพลงแห่งความรัก เป็นบทเพลงที่สรรเสริญธรรมชาติป่าเขา ขุนเขา ถ้ำของท่าน ความเวิ้งว้างว่างเปล่า ความโดดเดี่ยว และการระลึกถึงคุรุของท่าน เหล่านั้นคือบทเพลงภาวนาแห่งความรักของมิลาเรปะ

ในรีทรีต เธอจะเริ่มพบว่าความเศร้าและความโดดเดี่ยวมีความรู้สึกที่โรแมนติกอยู่ในนั้น มีบางสิ่งบางอย่างให้เกาะเกี่ยวในระดับหนึ่ง มีบางสิ่งให้ยึดเหนี่ยว แต่หากเธอไปไกลเกินไป มันก็จะหายไป ดังนั้นจึงเป็นความรักที่ละเอียดอ่อนมาก แต่เห็นได้ชัดว่า มันเป็นเรื่องโรแมนติกอย่างแน่นอน ในจุดนี้เองที่เธอจะมองเห็นคุณค่าของครู ครูกลายเป็นสิ่งประเสริฐสำหรับเธอ เธอไม่เพียงตกหลุมรักสิ่งแวดล้อมรอบตัวและความโดดเดี่ยวของตนเอง แต่ยังรู้สึกว่าครูของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้โดยตรงด้วย

เธอเริ่มชื่นชมความเป็นพ่อในตัวครู ความเป็นอัจฉริยะในฐานะนักจัดคู่ของครูที่ได้จัดแจงให้เธอได้มาพบและแต่งงานกับสถานที่อันเวิ้งว้างนี้ อาจกล่าวได้ว่า ความเศร้ากระตุ้นให้เกิดภาวะโรแมนติกทางจิตวิญญาณ แม้ในรูปแบบที่อาจดูเป็นวัตถุนิยม แต่ในเนื้อแท้แล้วนั้นเป็นทางจิตวิญญาณ และถ้าพวกเรากล้าพอ อาจกล่าวได้ว่า มันอาจถึงขั้น “ลึกลับ” ด้วยซ้ำ มันมีน้ำเสียงของประสบการณ์ที่ลึกลับอยู่ในที ความเศร้าปลุกเร้าพลังสร้างสรรค์ทางศิลปะในตัวเราอย่างใหญ่หลวง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับมิลาเรปะ มิลาเรปะแต่งบทเพลงและเริ่มเห็นสีสัน รูปทรง และเหตุการณ์รอบตัวปรากฏอย่างแจ่มชัด วิธีการส่องแสงของพระอาทิตย์ วิธีที่พระจันทร์ตก วิธีที่ก้อนเมฆเคลื่อนตัว สายลมที่พัดผ่าน เสียงนกฮูกยามค่ำคืน ยุงที่เกาะบนตัว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏต่อสายตาเธอกลายเป็นโลกแห่งความโรแมนติกอันหมดจด เต็มไปด้วยสีสัน และยิ่งใหญ่ตระการตาน่าอัศจรรย์ใจ

ในตอนเริ่มต้นเธออาจรู้สึกรำคาญแมลงรอบตัว แต่ในจุดหนึ่งเธอจะเริ่มพบว่าอยากเชิญพวกมันมาร่วมปาร์ตี้หรือมาทานอาหารเย็นด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าสิ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความจริง มันเป็นเพียงละครของจิตที่ล่องลอยหลุดออกไปหรือแม้กระทั่งเป็นภาวะเพ้อฝันหรือความหลอนของเรา เธอไม่สามารถมองว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์หรือเป็นเส้นทางที่ออกนอกลู่นอกทางได้ มันมีค่ามาก เพราะพวกเรายังไม่เคยเห็นอัตตาของเราอยู่ลำพังเป็นเวลานาน ไม่เคยเลย เป็นครั้งแรกที่พวกเราเริ่มเห็นว่าอัตตาของเราเปลือยเปล่า เราไม่ได้ปราศจากอัตตาอย่างแน่นอน พวกเรายังมีอัตตาอยู่ แต่เป็นอัตตาที่เปลือยเปล่า และมันเริ่มออกสำรวจโลกรอบตัว

ดังนั้นการเข้ารีทรีต คือการแนะนำสู่ความเปลือยเปล่าของอัตตา และเป็นการฝึกการเห็นคุณค่าอย่างละเอียดของความโดดเดี่ยวและความเหงา การอยู่ในรีทรีตนั้นไปพ้นจากความมั่นคงใดๆ แม้แต่จากครูของเธอ เธอจึงจำเป็นต้องดึงเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของตัวเองออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง การเข้ารีทรีตไม่ได้หมายถึงการเข้ารีทรีตในกระท่อมตามความหมายทางกายภาพเท่านั้น การเข้ารีทรีตหมายความว่า เธอถูกทิ้งให้อยู่โดยไม่มีใคร ครูบาอาจารย์ของเธอได้บอกเธอให้ทำงานกับตนเองเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำเพิ่มเติมใดๆแก่เธอ เธอต้องหาทางของตัวเอง

ในกรณีของเรา เธออยากค้นพบบางสิ่งบางอย่าง เธอหวังว่าจะได้ประสบการณ์ใหม่ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเข้ารีทรีต เธอปรึกษาครูบาอาจารย์ของเธอ และทั้งเธอและครูต่างเห็นตรงกันว่านี่เป็นสิ่งที่เธอควรทำ จากนั้นกระบวนการรีทรีตจึงเริ่มต้นขึ้น และประสบการณ์ที่ตามมาก็จะกลายเป็นเหมือนกันกับของมิลาเรปะ มันชัดเจนว่าเธอสามารถออกจากรีทรีตได้ เธอสามารถวิ่งเข้าไปในเมืองและกินไอศกรีมและไปดูหนัง เธอสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะทำสิ่งเหล่านั้น มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทั้งหมด เธอไม่สามารถหลบหนีได้จริงๆ เธอไม่เคยออกจากรีทรีต เมื่อเธอตัดสินใจทำแล้ว แม้เธอจะอยู่ที่สถานีแกรนด์เซ็นทรัลก็ตาม แต่ก็จะยังคงมีความรู้สึกรกร้างว่างเปล่าอยู่เสมอ

ดังนั้น ความจริงแล้ว ไม่ใช่เธอที่เข้ารีทรีต หากแต่รีทรีตนั้นเองที่มาหาเธอ ความโดดเดี่ยวอยู่ตรงนั้นเสมอ ฉันไม่คิดว่าความโดดเดี่ยวเป็นประสบการณ์เฉพาะของมิลาเรปะ พวกเราทุกคนต่างก็มีความรู้สึกนั้น โดยเฉพาะในการเดินทางทางจิตวิญญาณ
สายสัมพันธ์กับครู แต่ยังรวมถึงในความสัมพันธ์กับครอบครัวและประวัติศาสตร์ในอดีตของเรา ความรู้สึกของความโดดเดี่ยวอยู่ที่นั่นเสมอ แม้เธอจะมีทั้งความบันเทิง มีผู้คนรายล้อม มีเพื่อนมากมายคอยอยู่เคียงข้าง แต่ในเบื้องลึกของทั้งหมดนั้น ความรู้สึกโดดเดี่ยวกลับเด่นชัดขึ้นมา และเธอก็จะย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นทุกครั้ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถาบันวัชรสิทธา ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ทดลองทางการศึกษา บนพื้นฐานของการภาวนา การใคร่ครวญด้วยใจ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างเป็นมนุษย์ระหว่างผู้เรียน