พื้นที่ของการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้
ที่เปิดกว้าง
What’s new
มหายาน : ธรรมะของหัวใจ
บทความโดย คณพล วงศ์วิเศษไพบูลย์ มหายานคือธรรมะที่สื่อสารกับหัวใจ หากเรามองการศึกษาธรรมะจากมุมมองพัฒนาการแบบที่พุทธศาสนาทิเบตวางรากฐานไว้ เราจะเห็นถึงความชาญฉลาดในการสื่อสารคำสอนที่ยกระดับขึ้นมา จากวินัยแห่งการสละละวาง เส้นทางการปฏิบัติเพื่อปล่อยวางตัวตนทุกรูปแบบ เรามีความกล้าและไม่คิดมากที่จะปล่อยการยึดมั่นทางความคิด เป็นท่าทีที่เรารู้สึกได้ในประสบการณ์ตรงว่าตัวตนทั้งหมดที่เราคิดว่าเราเป็น ล้วนแต่เป็นมุมมองอันจำกัดที่ไม่จริงทั้งสิ้น น่าแปลกที่การปล่อยกลับไม่ได้ทำให้เราว่างเปล่า แต่ทำให้เรารู้สึกถึงอิสรภาพในชีวิตมากขึ้น เรากังวลกับชีวิตตัวเองน้อยลง จนบางครั้งเราอาจเริ่มรู้สึกถึงความพึงพอใจบางอย่างต่อชีวิต ที่ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเพิ่มมากกว่าสิ่งที่มันเป็น หรือก็คือความรู้สึกมั่นใจว่าเราจะอยู่ได้กับกรรมทั้งหมดที่จะสุกงอมขึ้นในชีวิต เมื่อวินัยไม่ได้เป็นการคิด หรือเป็นความพยายามเท่ากับช่วงแรก เมื่อนั้นการสัมพันธ์กับคำสอนที่เข้ามาทำงานกับหัวใจ จะเป็นสิ่งที่เข้ามาแปรเปลี่ยนเราอย่างลึกซึ้ง คลาสเรียนการหมุนกงล้อธรรมครั้งที่สอง เริ่มขึ้นด้วยปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร ที่เข้ามาหักล้างทฤษฎีเดิมๆ จากคำสอนในการหมุนกงล้อธรรมครั้งแรก แต่มันไม่ได้เป็นการหักล้างที่ชี้จุดผิดพลาดของทฤษฎีเดิม ทว่าเป็นการหักล้างอันเกิดจากการชี้ไปยังประสบการณ์ที่กว้างขึ้น มันจึงไม่ใช่การล้มล้าง แต่เป็นการรวมเอาคำสอนชุดเดิมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสัจธรรมที่ใหญ่กว่า คำสอนในการหมุนกงล้อธรรมครั้งที่สอง หรือ คำสอนมหายาน จึงถูกเรียกว่าเป็น คำสอนปรมัตถธรรม (ความจริงสูงสุด) จุดเด่นของธรรมในขั้นนี้คือ มันไม่อาจทำความเข้าใจได้ผ่านความคิด และด้วยเหตุนั้น มันจึงไม่ได้มีวิธีการใดที่ถูกต้องที่สุดในการเรียนรู้ธรรมขั้นนี้ ผู้ศึกษามหายานแต่ละคนเพียงแค่นำเอาคำสอนนี้เข้ามาภายใน หล่อเลี้ยงมันไว้ สัมพันธ์กับมัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความพยามใดๆ เพื่อที่จะเข้าใจ สิ่งที่เราอาจจะทำได้คือการสังเกตปฏิสัมพันธ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประสบการณ์ของเราเองที่มีต่อคำสอน แล้วเส้นทางของผู้ปฏิบัติก็จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นจากความกระจ่างของหัวใจที่ซึมซับคำสอนเข้ามาโดยไม่ต้องผ่านลำดับของการคิดวิเคราะห์ น่าสนใจที่เมื่อคำสอนสื่อสารตรงเข้ามาสู่หัวใจ ความเข้าใจที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้เกิดบางสิ่งที่อาจเรียกว่าเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับคำสอนหรือบางครั้งก็คือผู้สอนด้วย สายสัมพันธ์นี้จะเข้ามาดำรงอยู่ภายในใจเราราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต มันช่วยเปิดเราออกสู่ประสบการณ์ที่เกินกว่าการคาดคะเน และบนหนทางที่เราใช้ชีวิตอยู่บนการทำงานของสายสัมพันธ์นี้ ความรู้แจ้งก็จะค่อยๆ คลี่เผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ คำสอนสำคัญชิ้นหนึ่งในมหายานที่พลิกเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากผลลัพธ์ของหินยาน […]
วิจักขณ์ พานิช : “เปิดตาข้างใน ไร้สิ้นข้อสงสัยต่อ enlightenment”
บทความโดย ทีมงานวัชรสิทธาเรียบเรียงจากคำสอนและการนำภาวนาของ วิจักขณ์ พานิช ลองเปิดตาข้างในเพื่อสัมผัสกับคุณสมบัติของ space เปรียบเหมือนภาชนะที่ได้รับการชำระล้างมีพื้นที่ว่าง สะอาดหมดจดภาชนะที่ได้รับการถ่ายรินคำสอนอันมีค่า ด้วยความรัก ด้วยพลังอำนาจของครู เราได้รับการชำระล้าง แค่ลองเปิดตาที่จะสัมผัสคุณสมบัติที่หมดจด เนื้อแท้ บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งใดปกคลุมหรือบดบังได้ เมื่อตระหนักว่าธรรมชาตินั้น คือตัวเราที่แท้ประสบการณ์ของนิวรณ์จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งว่าง ก็ยิ่งเห็นมันได้ชัดขึ้น และยิ่งเห็นเนื้อแท้ที่ไม่อาจถูกปกคลุมหรือบดบังชัดขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะความใกล้ชิดกับครู ครูให้ความรักเอ็นดูเรา ครูเชื่อมั่นในตัวเรา ความรู้สึกของการเข้าถึงครู ศิโรราบต่อครูนอบน้อมเคารพ และรรื่นรมย์เมื่อครูมา เป็นความรู้สึกเชื่อมั่นเดียวกัน ต่อสิ่งที่เราเป็น นี่เป็นความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ จดจำความรู้สึกนั้นไว้ มองเข้าไปยังมัน มองเข้าไปใน Space จิตเดียวคือการเชื่อมประสานกับครูพักในธรรมชาติ เบิกบาน หมดจด ดั่งหมอกจางๆ ยามเช้า ละอองน้ำในลำธารใสเย็นท้องฟ้าสีฟ้า น้ำค้างบนใบหญ้า กลิ่นหญ้า กลิ่นดิน เป็นความรู้สึกที่หมดจด แห่ง depth ของชีวิตที่หมดจด มันเป็นสิ่งเดิมแท้ภายในที่เราตามหา ความชัดเจนที่ได้ประสบเป็นความรู้สึกในใจ ที่อาจเรียกได้ว่า “ crystal clear” มองเข้าไปข้างในคุณสมบัติพลังงานของ crystal ประโลมใจ […]
“ผ่อนคลาย” : หัวใจของมหามุทรา
บทความโดย ธัญญา ศรีธัญญา หัวใจสำคัญของการฝึกมหามุทราคือการ “ผ่อนคลาย” (relaxing) การที่ร่างกายหรือจิตไม่ผ่อนคลายหมายความว่าเราติดอยู่ในวังวนของการไล่ตามสิ่งต่างๆ ติดอยู่ในความคิด ติดอยู่ในมุมมองแบบทวิลักษณ์ ในคำสอนมหามุทราอันเป็นคำสอนระดับสูง ผู้ปฏิบัติได้ผ่านขั้นของการฝึกจิต รู้จักกลไกการทำงานของจิต (mind) ผ่านขั้นประสบการณ์ของความว่าง ตระหนักถึงรูปและความว่าง จิตคือความว่าง (no mind) และในขั้นของมหามุทราคือการฝึกธรรมชาติของจิต ซึ่งคือธรรมชาติของการตื่นรู้อยู่แล้ว (mind itself) การผ่อนคลายในการฝึกมหามุทราไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาด้วยการมีแอคชั่น ทำการแสดง หรือลงมือทำอะไร กลับกัน ประสบการณ์ความผ่อนคลายมาอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเราหยุด หยุดกิจกรรมทางจิต ไม่กระทำ ไม่ไล่ล่า ไม่พยายามไขว่คว้าอะไรเพิ่ม ฟังอย่างงี้ การผ่อนคลายจะว่าง่ายก็ง่าย แต่เราจะฝึกยังไง? ลามะเท็นปะ กยัลเซ็น ให้ตัวอย่างความผ่อนคลาย (mental ease) จากองค์กรรมาปะที่ 9 สี่ข้อที่น่าสนใจ 1.ความรู้สึก “งานเสร็จแล้ว” จังหวะที่จบงาน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลาย คนธิเบตทำสวนทำไร่ เมื่อหมดเวลางาน พวกเขาจะวางอุปกรณ์ เดินออกจากที่ทำงานกลับบ้าน เป็นความรู้สึกงานเสร็จแล้วที่ชัดเจน ลามะแวะแซวว่า ชาวโบลเดอร์คงไม่มีความรู้สึกแบบนี้ เพราะไม่ทำงานการ อยู่ในฮอลิเดย์ตลอดเวลา […]