บทความโดย ความสุขของนิทิ
สัตว์สี่ทิศคืออะไร
เรามักแบ่งแยกบุคลิกลักษณะของคนเป็นธาตุต่าง ๆ ดิน น้ำ ลม ไฟ
สัตว์สี่ทิศเป็นตัวแทนของธาตุต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบเป็นสัตว์ก็ทำให้เราเห็นบุคลิกลักษณะทั้งทางกายภาพและความนึกคิดภายในได้ชัดเจนขึ้น และทิศต่าง ๆ ที่กำหนดที่ตั้งของสัตว์ก็มีนัยยะสำคัญของตำแหน่งที่ใกล้เคียงหรือตรงข้ามกัน
ทิศเหนือ = กระทิง = ธาตุไฟ
เป็นคนเปิดเผยจริงใจตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ ลงมือทันทีเมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้า เน้นการไปสู่เป้าหมายเป็นหลัก เพราะเป็นคนเด็ดเดี่ยวกล้าตัดสินใจจนบางครั้งก็โดดเดี่ยวระหว่างทาง เพราะคิดเสมอว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ดังเช่นกระทิงที่พุ่งเร็วและแรง สำเร็จหรือพังทลายค่อยว่ากันทีหลัง ตัดสินใจไปแล้วยอมรับผลได้เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็รักความยุติธรรม มีกฎเกณฑ์ในชีวิตค่อนข้างตายตัว รักเพื่อนรักพวกพ้องซึ่งในแง่นี้ความยุติธรรมที่ยึดถือก็จะถูกใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนที่รักโดยไม่สนใจคนนอกวงเท่าไหร่ ฟังดูแล้วก็กลายเป็นไม่ยุติธรรมเสียอีก แต่นั่นเป็นเพราะความแข็งนอกอ่อนในของชาวกระทิงที่เมื่อรักใครแล้วก็จะสู้สุดใจเพื่อดูแลปกป้องพวกพ้องให้ถึงที่สุด กระทิงจึงมีภาวะความเป็นผู้นำสูง แต่ก็ขัดแย้งกับคนได้ง่ายเพราะมีทั้งพลังการสร้างและทำลายล้างอยู่ในตัว เป็นไฟที่พร้อมแผดเผาแต่บางครั้งการเผาก็เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดสิ่งใหม่…สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทิศใต้ = หนู = ธาตุน้ำ
คุณสมบัติของน้ำคือการเปลี่ยนรูปร่างไปตามภาชนะที่โอบรับมัน ลื่นไหลไปตามสภาวะแวดล้อม ถ้าร้อนน้ำก็เดือด เย็นจัดน้ำก็แข็ง คล้ายกับหนูที่ปีนป่ายไปทุกที่ ดำน้ำก็ได้ และปรับตัวเก่ง หนูจึงมีอยู่ทั่วโลกในทุกสภาพอากาศ ลักษณะของคนที่เป็นเหมือนน้ำหรือหนูก็จะดูเย็น ๆ เป็นคน ”อะไรก็ได้” ปรับตัวปรับใจไปตามคนรอบข้างได้ง่าย เข้ากับคนได้ดีเพราะมีความอ่อนโยนเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเสมอ เอาใจเขามาใส่ใจเราตลอดเวลาจนบางครั้งลืมมองใจตัวเองว่าจริง ๆ แล้วต้องการอะไร เน้นรักษาความสัมพันธ์และมิตรภาพเป็นสำคัญ จึงทำให้เป็นคนขี้เกรงใจ ไม่ชอบความขัดแย้งไม่ชอบทะเลาะกับใคร มักเป็นผู้ประสานรอยร้าวได้ดีอย่างน้อยก็กับตัวเองและคนรอบข้าง ใครอยู่ด้วยก็สบายใจ บางคนบอกว่าคนเป็นหนูจะเป็นคนเจ้าชู้ เพราะมีเพื่อนเยอะ ชอบการเป็นที่รัก ชอบให้คนมารัก และมักไม่หักหาญน้ำใจใคร เวลาใครมอบความรักให้ก็มักจะรับไว้เสมอ ถ้าได้รักกับหนูข้อดีคือเขาจะรักเรามาก ๆ ไม่อยากให้เราจากไปไหน แต่ข้อเสียก็คือเขาอาจจะไม่ได้รักเราคนเดียว…ใจกว้างเหลือเกินนะหนู
ทิศตะวันออก = อินทรี = ธาตุลม
นกอินทรีบินสูงและมีสายตากว้างไกล มองเห็นอะไรเป็นภาพกว้าง มีอิสระอยู่ในสายลม บินไปทางไหนก็ได้ด้วยปีกที่แข็งแรง มีพลังความสร้างสรรค์สูงมาก เป็นศิลปินและมักเป็นผู้นำความคิดใหม่ ๆ จินตนาการกว้างไกล แต่เพราะบินสูงมากทำให้บางครั้งมองไม่เห็นรายละเอียด คิดจะทำอะไรบางอย่างบางครั้งก็ต้องล้มเลิกกลางทางเพราะเปลี่ยนใจได้ง่าย และไม่ยึดติดกับความเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยรายละเอียดในการลงมือทำมากนัก มีความเสี่ยงมากที่จินตนาการล้ำเลิศจะกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่นกอินทรีไม่เจ็บปวดกับความล้มเหลวเท่าไรนักหรอก เพราะเป็นคนยืดหยุ่นปรับตัวเก่งเปลี่ยนแปลงพลิ้วไหวดั่งสายลม ทุกปัญหามีทางออก ไม่สำเร็จก็คิดใหม่ทำใหม่ได้เสมอ คนเป็นอินทรีมักจะใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ออกสำรวจสิ่งใหม่ได้ทุกวัน ถ้าเจอเป้าหมายเมื่อไหร่สายตาแหลมคมก็จะพุ่งไปทันทีจากระยะไกล หากระหว่างทางไม่มีอะไรมาขัดขวาง ก็เป็นไปได้มากที่อินทรีจะตะครุบเหยื่อสำเร็จ คนอื่น ๆ มักชี้แนะวิธีการกับคนเป็นอินทรีไม่ได้เพราะเขาจะดื้อหาวิธีการที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น แม้ในความโลเลล่องลอยถ้าลมเปลี่ยนเป็นพายุก็พร้อมพัดพาทุกอย่างและบางคราก็เป็นสายลมเย็นให้คนรอบข้าง อินทรีไม่ได้บินชมทิวทัศน์เล่นๆแต่บินเพื่อออกล่า เขาจึงมองหาเหยื่อ(เป้าหมาย)ใหม่ๆอยู่เสมอ
ทิศตะวันตก = หมี = ธาตุดิน
พี่หมีตัวใหญ่หนาหนักแน่นนุ่มลึก ขึงขัง จริงจัง รอบคอบ มีระเบียบแบบแผน สมบูรณ์แบบสุดๆ เคยได้ยินคำว่า “บ่นเป็นหมีกินผึ้งไหม” อันนี้เราตีความเอาเองว่าเพราะเจ้าระเบียบมาก คนเป็นหมีจึงมีเรื่องให้ติให้บ่นได้มากมาย แต่ทั้งหมดก็เพราะความหวังดี อยากให้เป็นไปตามขั้นตอนเพื่อนำไปสู่ผลสำเร็จที่ตั้งใจ ตรงกับความเป็นผืนดินที่มั่นคงมีรากฐานแข็งแรง ถ้าฐานไม่มั่นหมีจะเดินโซเซและรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีแผนการที่รอบคอบทุกๆการก้าวเดินของชีวิต เห็นดีเห็นชั่วชี้ผิดถูกได้ชัดเจนเพราะมีกฎเกณฑ์เป็นที่ยึดเหนี่ยว ฟังดูอาจจะอึดอัดเพราะมีกรอบชัดเต็มไปหมด แต่การได้อยู่ใกล้หรือทำงานร่วมกันกับหมีก็สบายใจได้ว่าหมีจะดูแลทุกอย่างให้ปลอดภัยเป็นไปอย่างเรียบร้อย งานทุกอย่างสำเร็จเสร็จแน่แม้จะช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป เป็นหมีไม่หวือหวาหรือใช้ชีวิตโลดโผนมากนัก อยู่กับคนเดิมๆสถานที่เดิมๆและเรื่องเดิมๆได้ดี เสมอต้นเสมอปลายเพราะมีความมั่นคงหนักแน่นในคนหรือเรื่องที่เชื่อมั่น แต่ถ้าใครขัดใจหรือบังคับให้ทำอะไรที่ขัดต่อกฎเกณฑ์ที่มีหมีจะดื้อเงียบ เก็บความรู้สึกเก่ง จึงส่งเสริมให้กลายเป็นคนสุขุม น่าเชื่อถือ น่าเกรงขาม ไม่ค่อยมีใครกล้าขัดใจ เพราะถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาสู้กับหมีเราจะกลายเป็นฝุ่นใต้…หมีทันที
สัตว์ทั้ง 4 ทิศมีความสุดขั้วที่แตกต่างกันในทางของใครของมัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เท่าที่เขียนมามันกึ่ง ๆ จะไปในทางลบเสียหน่อย เพราะในความเป็นจริงแล้วหากเราเป็นคนที่ตรงกับทิศใดทิศหนึ่งแบบสุด ๆ ชีวิตก็จะเสียสมดุลเกินไป ข้อดีมีอยู่ในตัวแต่ข้อเสียที่สุดขั้วจะทำให้เราหลงทางได้ง่าย ๆ การเป็นกระทิงที่พุ่งชนแต่เป้าหมายในความเป็นมนุษย์เราอาจจะสูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเพราะมัวแต่มองไปข้างหน้า การเป็นหมีที่มองหาแต่พื้นดินหนักแน่นเพื่อทุกก้าวที่มั่นคงก็เป็นเรื่องง่ายที่เราจะไม่พบความสุขที่พอดีกับตัวเราสักที หากเป็นหนูที่พยายามเข้าใจคนอื่นเสมอเพื่อให้เป็นที่รักเราก็มักสูญเสียตัวเองไป และหากเป็นอินทรีที่บินสูงตลอดเวลาเราอาจจะมองเห็นแต่ภาพกว้างเป็นจินตนาการที่เอื้อมไปไม่ถึงสักที
การเข้าใจเรื่องสัตว์ทั้ง 4 ทิศไม่เป็นแค่เพียงการรู้จักตัวเองให้มากขึ้น แต่หากเรารู้ว่าเรายังมีความเป็นกระทิงน้อยเกินไป เป็นหนูมากเกินไป อยากเติมอินทรีเข้าไปบ้างโดยไม่โลเลเกินไปด้วยการเป็นหมีอีกเล็กน้อย ก็จะช่วยสร้างสมดุลชีวิตได้มากขึ้น โดยไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นทุกบทบาทเท่าๆกัน หากเป็นหนูขอเพียงเป็นหนูที่เติบโต ไม่เป็นหนูที่เอาแต่ใจ รู้เท่าทันว่าจุดอ่อนคืออะไรแล้วเติมจุดแข็งของเพื่อนกระทิง อินทรี และหมีเข้ามาบ้าง ไม่ใช่เพื่อความสมบูรณ์แบบ แต่เพื่อชีวิตที่สมดุลสงบสุข และเพื่อจะอยู่ร่วมกับเพื่อนสัตว์อีกสามตัวอย่างมีความหมาย
หากเราสุดขั้วในทางใดทางหนึ่งจนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนชีวิตไปเลยก็อาจจะหลงทางได้ เพราะตัวตนที่แท้ที่ทุกคนเกิดมาเราจะเริ่มต้นจากทิศใดทิศหนึ่งเสมอ จะมีธรรมชาติของตัวเองเป็นพื้นฐาน เราเพียงแค่เติบโตด้วยการเติมเต็มความแตกต่างอย่างสมดุลพอเหมาะพอดี ไม่ปฏิเสธตัวตนที่แท้ ไม่ต่อต้านทิศตรงข้าม ไม่หลงใจไปกับสัตว์ชนิดอื่นที่อยากเป็น เพราะการยึดติดจะเป็นตัวตนใดตัวตนหนึ่งเสมอ เป็นเรื่องยุ่งยากกว่าการหาตัวตนที่เป็นเราจริง ๆ เสียอีก
#เขียนให้ครบ100
100 Day-Challenge โดย ความสุขของนิทิ