เรียบเรียงโดย ทีมงานวัชรสิทธา
“สตาร์ฮอว์ค” ชื่อนี้มาหาเธอเองในความฝัน…
เธอฝึกปฏิบัติในวิถีแม่มด, “เพแกน”, “ก็อดเดส”, “พีซแอคติวิสต์” และ “อีโคเฟมินิสต์” มายาวนาน ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักราวกับเป็นสถาบันแห่งหนึ่งในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
“Spiral Dance” หนังสือเล่มที่โด่งดังที่สุดของเธอ ขายได้หลายแสนเล่ม ถูกแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลก
“หากคุณนึกถึงแม่มด หรือผู้หญิงที่ใช้ชื่อว่า “สตาร์ฮอว์ค” คุณคงมีภาพหญิงแก่ในเสื้อคลุมแปดสิบเจ็บแบบ, เหรียญดาวห้าแฉก หรือเครื่องประดับไสยเวทลึกลับ แต่ฉันไม่ได้เป็นแม่มดประเภทชอบแต่งตัว เวลาฉันได้รับเชิญไปพูด ตอนก้าวเข้างาน อาจมีใครตะโกนตามหลังฉันว่า “ป้าๆ ตั๋วอยู่ไหน?”
อิทธิพลของสตาร์ฮอว์คเริ่มต้นขึ้นในย่าน Bay Area, California เธอรวมกลุ่มแม่มดที่มีความสนใจคล้ายกัน ขยายวงไปทั่วตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และส่วนอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา
“คนส่วนใหญ่ที่เราทำงานด้วยจะแปลกๆ สักหน่อย” เอเดรียน บิกกส์, ผู้ช่วยของสตาร์ฮอว์คเล่า “เรามีออฟฟิศอยู่ในย่านดาวน์ทาวน์ซานราฟาเอล ที่นั่นเต็มไปด้วยหนังสือที่น่าสนใจและเอาไว้ปรุงยา”
“สตาร์ฮอว์คเป็นผู้หญิงที่อเมซซิ่งมาก เธอคือคนประเภทที่เชื่อมต่อผู้คนได้กว้างอย่างเหลือเชื่อ ใครๆ ก็รักเธอ เธอใช้ชีวิตอยู่ตรงชายขอบ แต่ได้รับการยอมรับอย่างสูง เธอเป็นเทพ เป็นปราชญ์สมัยใหม่ ดูภายนอกเธอไม่เหมือนแม่มดเลยสักนิด เธอเหมือนผู้หญิงที่ทำงานในร้านเบเกอรี่มากกว่า”
“คุณเดินเข้ามาในงาน แล้วคิดในใจว่า “ตายล่ะ นี่สตาร์ฮอว์คกำลังร่ายคาถาใส่ฉันอยู่หรือเปล่า?” แต่พอได้ยินสิ่งที่เธอพูด คุณจะตระหนักว่าเธอเปลี่ยนวิธีที่คุณมองโลกไปโดยสิ้นเชิง เธอคือนักขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในแบบที่อ่อนโยน นุ่มนวล และแหลมคม เธอไม่ใช่พวกชอบจิกกัด แต่เป็นนักคิดที่ลุ่มลึกและมีอิทธิพลต่อจิตใจผู้คน”
สตาร์ฮอว์คเขียนหนังสือหลายสิบเล่ม เกี่ยวกับ paganism, witchcraft, การเมือง, และการต่อสู้เพื่อปกปักรักษาดาวเคราะห์ดวงนี้
แม่มดกับวันฮาโลวีน
สำหรับแม่มดอย่างเราๆ ฮาโลวีนไม่ใช่แค่เทศกาลแต่งกายแฟนซี หรือ “trick or treat” ฮาโลวีนคือวันปีใหม่ของเหล่าแม่มด หรือที่เรียกกันว่า “ซาวิน” (Samhain) ช่วงเวลาสิ้นสุดของฤดูกาลเก็บเกี่ยวและจุดเริ่มต้นของฤดูหนาว ที่อาจเปรียบได้กับม่านกั้นระหว่างสองโลก นั่นคือโลกแห่งชีวิตกับโลกแห่งความตาย ราวกับม่านลูกไม้สีดำ เหล่าแม่มดจะรวมตัวกันเพื่อระลึกถึงบรรพชนและผู้เดินทางข้ามผ่านม่านกั้นนั้นมาก่อน ไว้ทุกข์ให้แก่ความสูญเสียและความเจ็บปวดที่แบกรับไว้โดยแม่ของพวกเธอ ซึ่งก็คือมารดาธรรมชาติ อีกทั้งยังเฉลิมฉลองให้แก่ Goddess แห่งวงล้อศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต หมุนวนเป็นวัฏจักรแห่งการเกิด การเติบโต การตาย และการให้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
วงเต้นรำก้นหอย (Spiral dances and circles) แห่งการรำลึก ที่รวมเหล่าแม่มดนับพันจัดขึ้นเป็นประจำในซานฟรานซิสโก, เซบาสโตปอล, ปาโลอัลโต, ซานตาครูซ, และในย่านอื่นๆ แถบ เพื่อนและคนแปลกหน้าบ้างก็จับมือ บ้างก็ปล่อยมือ เป็นวงเพื่อสร้างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ปลุกพลังแห่งธาตุตามธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ร้อง รำ หัวเราะ เล่น และเต้น ตามจังหวะเสียงกลอง
ทำไมแม่มดต้องใส่สีดำ?
“ชุดสีดำทำให้ดูผอม แล้วเวลาเลอะก็มองไม่เห็นด้วย” สตาร์ฮอว์คกล่าว
“สีดำคือด้านมืดของดวงจันทร์ และเป็นเวลาที่ดีสำหรับเวทมนตร์ มันเงียบกว่า มีสิ่งกระตุ้นเร้าภายนอกน้อยกว่า เธอสามารถโฟกัสไปยังพลังงานและข้อความที่ถูกส่งมาได้ลึกซึ้งกว่า”
ทำไมแม่มดต้องเต้นเปลือยกายใต้แสงจันทร์?
“ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายมนุษย์คือร่างทรงของคุณสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต”
“เธอไม่ต้องอาย ไม่ต้องปกปิด แอบซ่อน หรือละอายร่างกายของเธอ เมื่อเธอได้เปลือยกายท่ามกลางธรรมชาติ ผิวของเธอจะสัมผัสกับธาตุและพลังงานต่างๆ ในชั่วขณะนั้นไม่มีสิ่งใดกั้นขวางเธอจากโลกธรรมชาติ”
แม่มดยุคใหม่ระมัดระวังเรื่องการร่ายคาถา
“เรามีคำกล่าวว่า : เวทมนตร์ใดที่เธอส่งออกไปจะย้อนกลับมาที่เธอคูณสาม” สตาร์ฮอว์คกล่าว
“ตอนฉันสาวๆ แน่นอนว่าฉันเคยทดลองมนตร์เสน่ห์บ่อยๆ แล้วในที่สุดมันก็เวิร์ค! แต่หลายครั้งที่ Goddess ดูจะส่งใครก็ไม่รู้มาให้ฉัน…”
พวกคริสเตียนฟันดาเมนทัลลิสต์ (เชื่อความจริงทางศาสนาหนึ่งเดียวสูงสุด) มีแนวโน้มจะเชื่อว่าพวกแม่มดทำงานให้ปีศาจ พวกลิเบอรัลก็มักมองไสยเวทย์ว่าเป็นเรื่องเหลวไหล สำหรับแม่มด พวกเธอมองคำสอนและประเพณีของ “วิกก้า” (Wicca) ในฐานะศาสนาหนึ่ง ซึ่งมีรากกำเนิดจากวัฒนธรรมพื้นเมืองของของยุโรปตะวันตก แม่มดทั้งหลายถือว่าเป็น “เพแก้น” (pagans) ผู้ที่มีความเชื่อในจิตวิญญาณแห่งโลกธรรมชาติ แต่ไม่ใช่เพแก้นทุกคนจะเป็นแม่มด
หากเป็นชุมนุมในหมู่แม่มดด้วยกันก็ไม่ใช่อะไรที่จะเปิดต่อคนภายนอกให้เข้าร่วมได้ แม่มดที่ดีไม่เชื่อในวิถีซาตาน ไม่ทำพิธีบูชายันต์มนุษย์หรือสัตว์
แม่มดบางตนยังคงแต่งตัวเป็นแม่มดตามแบบประเพณี ขี่ไม้กวาด หรือประดับตะเกียงฟักทอง ทว่าแม่มดส่วนใหญ่ที่ฝึกปฏิบัติจริงจังอาจไม่ได้สนใจเปลือกนอกพวกนั้นเท่ากับบทสวด การเต้นรำ และการทำพิธีกรรม
เวทมนตร์ (Magick)
สตาร์ฮอร์คมีนิยามของเวทมนตร์ที่กว้าง “ศิลปะแห่งการแปรเปลี่ยนจิตสำนึกตามเจตจำนง” เราสามารถเลือกได้ว่า สภาวะแบบใดที่เราอยากจะเป็น
“เวทมนตร์สอนเราว่าจิตทำงานยังไง หากเธอต้องการให้บางสิ่งเกิดขึ้นในชีวิต เธอต้องมีภาพของสิ่งที่เธอต้องการ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เธอไม่ต้องการ”
Magick ในภาษาอังกฤษมีถูกเติมตัว “K” เข้าไป ครั้งแรกโดย อลีสเตอร์ โครวลีย์ (Aleister Crowley) เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างเวทมนตร์ของนักแสดงมายากล กับ เวทมนตร์ที่ฝึกฝนในหมู่แม่มด
ทุกวันนี้เวทมนตร์ไม่ได้ถูกเข้าใจว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย ทว่าคือศิลปะอย่างหนึ่งในการใช้ “พลังงาน” ทั้งภายในตัวบุคคลคนนั้น และ “พลังงาน” ของธาตุตามธรรมชาติที่อยู่รายรอบ
แม่มดนักเคลื่อนไหวสังคม
สตาร์ฮอว์คคือผู้ร่วมก่อตั้ง “The Reclaiming Collective” (www.reclaiming.org) ชุมชนแม่มดแห่งเมืองซานฟรานซิสโก ที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการเคลื่อนไหวทางการเมือง
“เรามีโอกาสที่จะแปรเปลี่ยนสังคมที่เราอยู่ไปสู่การเป็นสังคมที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลมากขึ้น” สตาร์ฮอว์คกล่าว “เรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและความต้องการที่จะไปสู่จุดนั้น ไม่เช่นนั้น เราก็กำลังมุ่งสู่ภัยพิบัติทางนิเวศและทางสังคมที่เลวร้ายที่สุด
“สิ่งที่เราเรียนรู้จากธรรมชาติ คือหนทางเยียวยาความเสียหาย เราจะออกแบบระบบเช่นไรที่จะทำงานเหมือนอย่างที่ธรรมชาติทำ ในแบบที่ทุกองค์ประกอบมีหน้าที่สำคัญต่อทั้งหมด ปราศจากของเสีย ปราศจากขยะ… เราสามารถเรียนรู้ที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่โลกนี้ ด้วยการฟื้นสุขภาวะของระบบ แทนที่จะทำลายมัน
ก่อนจะมาเป็นสตาร์ฮอว์ค
สตาร์ฮอว์ค ปัจจุบันเธออายุ 71 ปีแล้ว ชื่อเดิมคือ มิเรียม ซิมมอส เธอเติบโตที่ซานเฟอร์นานโดแวลเลย์ เรียนจบด้านศิลปะ ภาพยนตร์ และจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย UCLA ที่ซึ่งเธอเคยได้รับรางวัลนักเขียนดีเด่นจากนวนิยายที่เธอเขียน ต่อมาเธอได้ฝึกเป็นนักจิตบำบัดที่ Antioch West University แต่เธอเลือกที่จะเอาดีทางงานเขียนและงานสอนมากกว่า
เมื่อเธอเลือกที่จะเป็นผู้ปฏิบัติ “the Craft” อย่างเอาจริงเอาจังต่อเนื่องหลายทศวรรษ สตาร์ฮอร์คจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ Earth-based spirituality movement คนสำคัญในโลกตะวันตก งานเขียนเกี่ยวกับศาสตร์แม่มดของเธอที่ชื่อ “The Spiral Dance” ถือเป็นงานคลาสสิคที่ขายทั่วโลกได้หลายแสนก็อปปี้ และได้รับการแปลเป็นหลายภาษา หนังสือบางเล่มของเธอถูกใช้เป็นหนังสืออ่านในหลักสูตรมหาวิทยาลัย
ทว่ามีสิ่งนึงที่ทำให้สตาร์ฮอว์คต่างจากแม่มดทั่วไป ก็คือแพสชันในการประท้วงของเธอ ตอนสมัยสาวๆ เธอมีส่วนร่วมในการเดินขบวนมานับไม่ถ้วน และเคยถูกจับกุมตัวไม่ต่ำกว่ายี่สิบรอบ เธอพยายามจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวที่ไม่ใช้ความรุนแรง
สตาร์ฮอว์ควิพากษ์มอนซานโต้และคัดค้านอุตสาหกรรมจีเอ็มโอทั้งหลาย เธอฝึกปฏิบัติและสอนเพอมาคัลเจอร์ การออกแบบเชิงนิเวศที่เชื่อมโยงสวนเกษตร ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และเมืองเข้าด้วยกัน เธอเป็นคนหนึ่งที่ร่วมรณรงค์ให้ผู้คนสนใจประเด็นโลกร้อน
“ธรรมชาติคือสิ่งที่ดูแลเรา ทำให้เรายังมีชีวิตรอด บ่อยครั้งที่เราไม่ได้ใส่ใจและเห็นคุณค่าต่อสิ่งที่เราได้รับจากธรรมชาติ” มนุษย์เราคิดว่าเราพึ่งพาตัวเองได้ และไม่ต้องพึ่งพาโลกธรรมชาติ หรือไม่ก็คิดว่าเราเหนือกว่าและไปพ้นธรรมชาติได้แล้ว เพราะเราไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เราอาศัยอยู่ และมีชีวิตอยู่ได้จาก เราจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สุขภาวะของดาวเคราะห์ดวงนี้ย่ำแย่อย่างที่เป็นอยู่”
ผู้คนในแวดวงของเธอเรียกเธอว่า “สตาร์” เธอเป็นที่เคารพในพันธกิจของการพาศาสตร์แม่มดจากภาพลักษณ์ที่แปลกหรือเพี้ยน ไปสู่การเป็นที่ยอมรับในทางวิชาการ
“แม่มดคือศาสนา คือจิตวิญญาณจริงจัง ไม่ใช่แค่เสกคาถาขอให้รวย”
เวทมนตร์อยู่ในความสัมพันธ์ที่เรามีต่อธรรมชาติ และมีอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีต่อตัวเราเอง เธอส่งเสริมให้ผู้คนสัมผัสดิน ช้าลง และสังเกตธรรมชาติ ในงานเขียนของเธอ เธอย้ำว่า “โลกสื่อสารกับเราอยู่ตลอดเวลา”
“พวกเราเชื่อว่าโลกนี้มีชีวิต และทุกสิ่งบนโลกนี้มีจิตและสื่อสารได้”
“และเมื่อคุณอยู่ในสภาวะจิตและการตระหนักรู้ที่เชื่อมโยงกับโลก คุณก็จะสามารถได้ยินสิ่งที่โลกสื่อสารกับคุณ คุณสามารถเรียนรู้ภาษาของต้นไม้ พืชพันธุ์ นก แมลง และสัตว์ต่างๆ ได้ ฉันคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นแม่มดหรอก ถึงจะมีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับธรรมชาติ ใครๆ ก็มีได้ ขอเพียงแค่ใส่ใจและเปิดที่จะเชื่อมโยง”
สตาร์ฮอว์คดูแลฟาร์มสี่สิบเอเคอร์ติดกับผืนป่าเร้ดวู้ดและโอ้คสะวันนาห์ขนาดใหญ่ เธอปลูกต้นโอลีฟ สวนแอปเปิ้ล และพืชผักและผลไม้ในกรีนเฮาส์ เธอขับรถบรรทุกไบโอดีเซลและทำปุ๋ยหมักจากเศษขยะในครัวเรือน
“ผู้คนแปลกใจที่เห็นฉันทำอะไรเยอะแยะมากมาย” เธอกล่าวด้วยความภูมิใจ “ฉันเก็บผลไม้มาอัดกระป๋องด้วยตัวเอง และฉันก็ทำพายอร่อยด้วยนะ”
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.starhawk.org
แปลเรียบเรียงจาก
https://www.sfgate.com/bayarea/article/EARTH-MOTHER-Author-Starhawk-is-a-spiritual-2678373.php