เสาร์อาทิตย์ 2 วันต่อเนื่อง
30-31 กค 65
9.00-17.00 น.
ณ วัชรสิทธา เทเวศร์
ค่าลงทะเบียน 3,450 บาท/ ท่าน
สมาชิกกิจกรรมลด 10% เหลือ 3,105 บาท
การได้พบปะกันในครั้งนี้ เราจะมาชวนทุกๆคนมานั่งล้อมวงฟังนิทานท้องทุ่งพื้นบ้าน การเดินทางของชาด เมล็ดบัวแดง
ชาดเป็นเด็กชนบทที่ซุกซน ชอบออกไปหาผักหาปลา ตามท้องทุ่งอยู่ทุกวัน เขาจะรู้โดยสัญชาตญาณเลยว่าสิ่งใหนบ้างที่เขากินได้ และจะหาสิ่งนั้นได้จากที่ไหน ชาดชำนาญท้องทุ่งแห่งนี้มาก วันนี้เขาจะไปส่องนกกระยางโทงที่ชายทุ่งริมคลองซึ่งมีต้นจากและต้นเสม็ดขึ้นเต็มป่า วันนี้เขาตัดสินใจไม่ลัดเลาะริมคลองไป แต่เดินอย่างเด็ดเดี่ยวผ่ากลางทุ่งที่หญ้านั้นสูงเลยตัวเขาไปถึง 3 ช่วงตัว ราวกับเค้ารู้ว่าตอนนี้นกกระยางโทงนั้นอยู่ตรงไหน เขาเดินลึกเข้าไป ลึกเข้าไป
จากท้องทุ่งที่แห้งเดินง่าย ตอนนี้กลับเป็นปลักโคนที่หนืดเหนียวยากที่จะสาวเท้าเดินได้ แต่ชาดก็ช่างสังเกต เขาเห็นปลาหมอ ไถลตัวไปมา ก็เลยทำตามปลาหมอนั้นบ้าง เขาค่อยๆนอนราบไปและไถลตัวแบบปลาหมอ และตามปลาหมอตัวนั้นไป จนไปถึงบึงน้ำกลางทุ่งที่มีบัวแดงบานสะพรั่ง และนกกระยางโทงเดินเล่นและนั่งพักร้อนฝูงใหญ่ ชาดนอนมองบึงบัวและนกกระยางโทงอยู่นานสองนาน ด้วยความดื่มด่ำและอิ่มเอมใจ ท้องเขาก็เริ่มร้อง และเขาได้แหงนหน้าไปมองตะวัน โอว นี่มันบ่ายแก่ๆแล้วนี่ ชาดกวาดสายตาไปทั่วเพื่อหาอะไรรองท้อง ก็เหลือบไปเห็นฝักบัวเข้าและเขาได้อุทานในใจทันทีว่ากูรอดแล้วโว้ยย
เมล็ดพันธุ์แห่งโพธิที่ได้หมกฝังอยู่ในปลักตมแห่งจิตนั้นมาเนินนาน เมื่อน้ำใสและแสงส่องถึง มันจะรับรู้ถึงปลักตมอันอุดมสมบูรณ์ที่มันอยู่ และมันจะแทงรากออกมาและค่อยๆ ซึมซาบโลกของมันอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแปรเปลี่ยนปลักตมอันอุดมนั้นเป็นลำต้นที่พุ่งทะยานขึ้นตามทิศทางของแสง กระบวนการนี้เป็นไปตามธรรมชาติ แตกใบออกรับแสง เพื่อระลึกถึงธรรมชาติอันกระจ่างชัดอยู่เสมอ จนกระทั้งมันสมบูรณ์พร้อม จึงตั้งช่อขึ้นมา โดยที่บัวเองไม่ได้หลงลืมการเบ่งบานตามธรรมชาติของมัน เมื่อมันเบ่งบานจนเต็มที่แล้ว หมู่แมลงก็มาดอมดมเกสร กลีบที่สวยงามก็หมดหน้าที่ ได้ร่วงโรยไป เหลือไว้แต่ช่อดอกที่รักษาเมล็ดพันธุ์เอาไว้ กระบวนการนี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากช่วยสัตว์ขนสัตว์ที่ติดอยู่ในปลักตมแห่งอวิชชา เมื่อโพธิงอกงามขึ้นแล้วและดำเนินไปในมณฑลแห่งใจ แดนสุขาวดีก็ไม่ใช่ที่ห่างไกลแต่ปรากฏ ณ บัดนี้
รายละเอียดกิจกรรม
จะเป็นการสนทนาและภาวนา
วันแรก (30 กรกฎาคม)
ช่วงเช้า: ชวนสนทนากันเกี่ยวกับเรื่องมุมมองที่เรามีต่อเราและโลก ภาวนา บ่มเพาะความรู้เนื้อรู้ตัว(ตามเทคนิควิธีการที่ได้รับมาจากท่านอาจารย์สด)
ให้รับรู้ว่าน้ำใส (ความสงบผ่อนคลาย)และแดดส่องถึง(ความตระหนักรู้ภายใน) จะกระเทาะต้นในเมล็ดบัวนั้นให้งอก (กระเทาะเปลือกของอัตตาตัวตนอันคับแคบออก)
ช่วงบ่าย: สนทนาเรื่องมุมมองที่เรามีต่อโลกกับความเข้าใจลึกขึ้นไปในเรื่องภายในใจ
ตัดสลับกับการภาวนา
วันที่สอง (31 กรกฎาคม)
สนทนาเรื่องการตระหนักรู้และกระบวนการแปรเปลี่ยน
(โพธินั้นจะหาพบได้ในจิตอันไม่บริสุทธิ์ของเรา และเมื่อเราดำรงจิตอันเป็นกุศลตามธรรมชาตินั้นไว้ได้ เราย่อมเป็นอิสระจากการบดบังของใจเราเองที่การรับรู้นั้นมัวหมอง)
ภาวนาบนพื้นฐานของความผ่อนคลายและความรู้เนื้อรู้ตัวเพื่อให้โพธินั้นงอกงาม